นางนาก (1999)

Photobucket

ในปลายสมัยรัชกาลที่ 4 เกิดสุริยคราสขึ้น ผู้คนแตกตื่น เหมือนกับเป็นเหตุบอกลางร้าย จากนั้นสยามประเทศก็ผลัดแผ่นดินเข้าสู่สมัยพระพุทธเจ้าหลวง มาก (วินัย ไกรบุตร) ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารรบที่ชายแดน ปล่อยให้เมียสาวที่กำลังท้องแก่ชื่อ นาก (ทราย เจริญปุระ) อยู่เพียงคนเดียว นากต้องลำบากตรากตรำทำนาอยู่คนเดียวทั้งๆ ที่ท้องแก่ใกล้คลอด เมื่อเจ็บท้องใกล้คลอดมีลางร้ายนกแสกบินผ่านหลังคาบ้าน นากเสียชีวิตพร้อมลูกขณะคลอด แต่วิญญาณของนางยังคงไม่ไปไหน วนเวียนอยู่บริเวณบ้านและรอคอยการกลับมาของผัวรัก และเมื่อมากกลับมา ก็มีผู้คนพยายามบอกมากเกี่ยวกับเรื่องนากที่ตายไปแล้ว แต่มากไม่เชื่อ ส่วนนากเองก็อาละวาดหักคอผู้คนที่พยามยามบอกเรื่องนี้แก่มาก

จนในที่สุดมากก็รู้ความจริง เมื่อเห็นมือของนากที่ยาวลงมาเก็บมะนาวที่ใต้ถุนบ้าน มากตกใจวิ่งหนีหลบไปหลังใบหนาด และหนีเข้าไปในโบสถ์ ซึ่งพระและเณรก็สวดมนต์และเอาสายสิญจน์คล้องให้ แต่ผีนางนากก็ยังเข้ามาอาละวาดถึงในโบสถ์ได้ เดือดร้อนสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีที่นั่งทางในและรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเดินทางมาช่วยเหลือ และได้สะกดวิญญาณนางนากให้สงบเพื่อให้ไปเกิดใหม่ ก่อนจากไปท่านได้เจาะกะโหลกศีรษะนางนากเพื่อสะกดวิญญาณ และนำติดตัวไปด้วยตลอด เพื่อให้วิญญาณนางนากได้รับการชำระบาปที่ก่อไว้ก่อนจะไปเกิดใหม่ ส่วนมากเมื่อจัดงานศพเมียรักเป็นที่เรียบร้อยก็ออกบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับนาก จากนั้นก็ไม่มีใครได้พบเห็นวิญญาณนางนากอีกเลย เหลือไว้เพียงตำนานความรักและความภัคดีต่อผัวของนางนากสืบต่อไป

นางนากเป็นผลงานกำกับเรื่องที่สองของ นนทรีย์ นิมิบุตร ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจาก 2499 อันธพาลครองเมือง เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งคราวนี้นำเอาเรื่องราวความรักอมตะของแม่นากพระโขนงมาทำใหม่คิดใหม่ โดยการใส่รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ลงไป เพื่อให้เรื่องราวดูมีความสมจริงมากขึ้นกว่าเวอร์ชั่นที่เคยมีการสร้างกันมาก่อนหน้า ทำให้หนังประสบความสำเร็จอย่างงดงาม รวมถึงกวาดรายได้ไปอย่างมหาศาล

หนังดำเนินเรื่องราวได้น่าติดตาม และแม้ว่าทุกคนจะรู้ตอนจบอยู่แล้วก็ตาม แต่ก็อดสงสารนางนากไม่ได้ ที่ต้องพลัดพรากจากคนรัก นักแสดงทุกคนสวมบทบาทได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ ทราย เจริญปุระ ที่รับบทนางนากได้อย่างลงตัว อาจจะมีติติงอยู่บ้างก็คงเป็นการแสดงของ วินัย ไกรบุตร ที่รับบทมาก ที่การแสดงออกจะดูแข็งไปนิดในบางฉาก

ใส่ความเห็น