เป็นเวลาสิบกว่าปีแล้วที่โลกถูกทำลายย่อยยับโดยอะไรบางอย่างที่ไม่มีใครบอกได้ นอกเสียจากวันหนึ่งได้เกิดแสงสว่างวูบใหญ่ และทุกสิ่งทุกอย่างก็หายไป ไม่มีต้นไม้ใบหญ้า ไม่มีอาหาร ไม่มีพลังงาน ผู้คนนับล้านเสียชีวิตทันทีด้วยเปลวไฟแผดเผาและน้ำท่วม ส่วนที่เหลือก็ตายอย่างช้าๆ จากความอดอยากหลังจากพลังงานสูญสิ้นไป ชายหนุ่ม (วิกโก มอร์เทนเซ่น) และ เด็กชาย (โคดี้ สมิท-แมคฟี) คือ โลกทั้งหมดของกันและกัน ทั้งสองก้าวไปบนเส้นทางซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นถนนสายหลักของอเมริกาที่มุ่งหน้าสู่มหาสมุทร พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในป่า หรือที่ใดก็ตามซึ่งเห็นว่าปลอดภัยจากแก๊งข้างถนนที่เป็นทั้งนักล่าและนักกินไม่เลือก หรือพวกมนุษย์กินคน ทั้งคู่จึงมีเพียงกันและกันเพื่อความอยู่รอดบนโลกอันโหดร้ายใบนี้
The Road ดัดแปลงมาจากนิยายระดับพูลิทเซอร์ชื่อเดียวกันของ คอร์แมค แมคคาร์ธีย์ (เจ้าของผลงาน No Country For Old Men) ผลงานกำกับของ จอห์น ฮิลล์โคท (The Proposition) นำแสดงโดย วิกโก้ มอร์เทนเซ่น (จาก Lord of The Ring ทั้ง 3 ภาค) กาย เพียร์ซ (Don’t Be Afraid of the Dark, The Hurt Locker) ชาร์ลิซ เธอรอน (Monster, Hancock, The Italian job) และ โคดี้ สมิท-แมคฟี (Let Me In เวอร์ชั่น 2010)
โดยเนื้อหาแล้ว The Road เป็นหนังว่าด้วยโลกหลังวันโลกาวินาศ (Post Apocalypse) เหมือนอย่าง Mad Max, Book of Eli และอื่นๆ แต่แทนที่จะเน้นไปทางด้านแอคชั่น หรือ แนวสยองขวัญ เหมือนกับหนังเรื่องอื่นๆ The Road นำเสนอความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกชาย ในแนวชีวิตดราม่าแทน โดยแฝงคำถามกับคนดูว่า จะเป็นเช่นไหรหากวันหนึ่งเราต้องอยู่ในสภาพเฉกเช่นสองพ่อลูกในหนัง ที่ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น เราจะเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองลงเหมือนกับบางคน หรือจะยอมละทิ้งความเป็นคนด้วยการปล้น ฆ่า และกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันเอง นอกจากนี้ หนังยังแสดงให้เห็นถึงความรักความห่วงใยของพ่อที่มีต่อลูก ที่พ่อพยายามสอนลูกให้รู้จักการเอาชีวิตรอด แต่ไม่ให้ละทิ้งความเป็นมนุษย์ไป ขอเพียงแค่มีความหวัง มีแสงสว่างภายในจิตใจ (ความดี) สิ่งนี้ก็จะทำให้เรามีชีวิต เพื่อก้าวผ่านสิ่งที่เรียกว่า บททดสอบจากพระเจ้า นั้นเอง