ดร อเล็กซ์ ครอสส์ (ไทเลอร์ เพอร์รี) และเพื่อนสนิทที่เป็นคู่หูของเขา ทอมมี่ (เอ็ดเวิร์ด เบิร์นส) และ โมนิก้า (ราเชล นิโคลส์) ต้องเข้ามาพัวผันกับคดีฆ่าที่อำมหิต จากน้ำมือของฆาตกรโรคจิตสมญานาม เดอะบุชเชอร์ (แม็ทธิว ฟ็อกซ์) ทั้งสามตามสืบจนรู้เป้าหมายต่อไปของฆาตกรรายนี้ แต่แล้วครอสส์ทำให้แผนสังหาร ลีออน มฌองซิเอร์ (ฌอง เรอโน) ของเดอะบุชเชอร์ต้องพังลง การไล่ล่าจึงเกิดขึ้น และเมื่อครอสส์ต้องสูญเสียคู่หูและบุคคลที่รักไป จากหน้าที่กลายมาเป็นแค้นส่วนตัว การไล่ล่าชนิดตายกันไปข้างก็เกิดขึ้น
Alex Cross เป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นทริลเลอร์ที่สร้างจากนิยายชุดขายดีของ เจมส์ แพทเทอร์สัน ที่เคยถูกสร้างหนังมาแล้วสองครั้งคือ Kiss the Girls (1997 กำกับโดย เกรย์ ฟายเออร์) และ Along Came a Spider (2001 กำกับโดย ลี ทามาโอริ) โดยได้นักแสดงรางวัลออสการ์อย่าง มอร์แกน ฟรีแมน มารับบทเป็น อเล็กซ์ ครอสส์ สำหรับ Alex Cross เป็นผลงานการกำกับโดย ร็อบ โคเฮน (The Fast and The Furious – 2001, XXX, Stealth และ The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor) จากบทดัดแปลงของ มาร์ค มอสส (Alone Came a Spider)
โดยเนื้อหาแล้ว Alex Cross เป็นเรื่องราวของนักอาชญาวิทยา ที่มีความไหวพริบ และความฉลาดในการแก้ไขปัญหามากกว่าที่จะเน้นแอ็คชั่นบู๊สนั่น ซึ่งนั้นคือเสน่ห์ของตัวละครอย่าง อเล็กซ์ ครอสส์ (รวมถึงการแสดงที่เข้าถึงบทของปู่มอร์แกน ฟรีแมน) สำหรับการนำตัวละครครอสส์มารีบู๊ทใหม่นั้น แม้ว่าบทจะเน้นในการสืบสวนและการไขปริศนาการฆาตกรรมในตอนแรก แต่เมื่อดำเนินมาถึงกลางเรื่องกลับกลายมาเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นไล่ล่าที่ไม่ได้มีความแตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นสักเท่าไหร่ ยิ่งมีฉากระเบิดวินาศสันตะโรยิ่งทำให้เสน่ห์ของตัวละครอย่างครอสส์หมดลงไป แถมยังเอาดาราอย่าง ไทเลอร์ เพอร์รี ที่เคยผ่านงานแนวตลกจากภาพยนตร์ชุด Madea’s มารับบทเป็นครอสส์ด้วยแล้ว ทำให้ความน่าเชื่อถือในตัวละครแทบจะลดลงไปในทันที แม้ว่า เพอร์รี จะมีความละม้ายคล้ายปู่ฟรีแมนในบางมุมก็ตาม ยิ่งเนื้อหาในช่วงท้ายทำให้ครอสส์ดูเป็นคนเจ้าอารมณ์และใช้กำลังในการตัดสินใจมากกว่าใช้สมอง อีกทั้งบทสรุปของตัวร้ายที่ดูง่ายดายซะจริงๆ (กับการแสดงแบบขโมยซีนของ แม็ทธิว ฟ็อกซ์ ที่กลบเพอร์รีในทุกฉากที่ต้องเผชิญหน้ากัน) ทำให้ Alex Cross กลายเป็นภาพยนตร์ที่ดูมีอะไรในตอนแรกๆ แต่กลับกลวงโบ๋ในตอนท้ายเมื่อเครดิตท้ายเรื่องขึ้นบนจอ
Chubbytid's Blog 