The Chronicles of Narnia: The Voyage of the Dawn Treader (2010)

Photobucket

ระหว่างทีปีเตอร์อยู่ในช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัย และซูซานพักผ่อนวันหยุดอยู่ที่อเมริกา ทั้งลูซี่ และเอ๊ดมันต์ต้องฝืนใจอยู่ร่วมบ้านกับญาติผู้น้องผู้แสนน่ารำคาญอย่าง ยูซดาส ระหว่างที่ทั้งสามโต้เถียงกันอยู่ภายในห้องนอน ทั้งหมดเดินทางข้ามภพสู่ดินแดนนาร์เนีย ผ่านทางภาพวาดเรือ ดอว์น เทรดเดอร์ ทั้งสามได้พบกับเจ้าชายแคสเปี้ยนซึ่งปกครองอาณาจักรนาร์เนีย และเหล่าลูกเรือที่อยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อค้นหาลอรด์แห่งเทลมาร์ทั้ง 7 ผู้สูญหาย ทั้งหมดเดินทางไปยังเกาะทั้ง 5 และได้เผชิญอันตรายและความท้าทาย โดยเฉพาะสิ่งยั่วยวนที่อยู่ใต้จิตสำนึกของแต่ละคน ตามคำบอกเล่าของผู้วิเศษ โคเรียอคิน พวกเขาจะต้องทำลายเวทย์มนตร์อันชั่วร้าย โดยการนำดาบศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 7 เล่ม มารวมกันบนโต๊ะอาหารของราชสีห์อัสลาน ก่อนที่หมอกร้ายสีเขียวและสิ่งชั่วร้ายจะทำลายนาร์เนียจนพินาศ

หลังจากภาคที่แล้วไม่ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้ แม้จะทำเงินไปทั่วโลกว่า 400 ล้านก็ตาม (ทุนสร้าง 200 กว่าล้าน) ทำให้ดีสนีย์ซึ่งร่วมออกทุนสร้างและ จัดจำหน่ายไม่ปลื้ม ทำให้ภาค The Voyage of the Dawn Treader ได้เทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟ็อกซ์ มารับหน้าแทนพร้อมลดทุนสร้างลงเหลือเพียง 100 กว่าล้านเหมือนภาคแรก พร้อมกับได้ไมเคิล แอปต์ (The World Is Not Enough, Enough, Gorilla In The Mist) โดยคาดหวังว่า หนังน่าจะเปิดตัวได้ไม่น้อยหน้าภาคแรก แต่ชะรอยจะไม่เป็นอย่างที่คิด

หนังอาจจะดูสนุกกว่าภาค Prince Caspian ที่ดุดันและหม่นกว่า (แต่เนื้อเรื่องค่อนข้างอืด) ทำให้ในภาคนี้เนื้อหาค่อนข้างรวบรัด และเดินเรื่องเร็วพร้อมๆ กับใส่ฉากแอคชั่นเอาใจคอหนังเข้ามาตลอดเวลา แต่นั้นก็ไม่ช่วยทำให้ภาคนี้ ที่เนื้อเรื่องไม่ค่อยเดินหน้าไปไหนเท่าที่ควร ทำให้บางช่วงค่อนข้างน่าเบื่อเล็กน้อย อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าดูสนุกกว่าภาคที่แล้ว อีกทั้งเทคนิคต่างๆ ก็ดูดีขึ้นและสวยงามกว่าภาคที่แล้ว ถือเป็นหนังที่ดูได้ไม่เสียดายเงิน แต่ก็ไม่มีอะไรให้จดจำมากนัก